กูเกิ้ล Search Engine ยักษ์ใหญ่ที่ช่วยให้เราสามารถหาข้อมูลต่าง ๆ ที่เราต้องการได้อย่างง่ายดาย เหมือนย่อโลกทั้งใบไว้ในหน้าเดียว
Google Adwards คืออะไร
คือการทำโฆษณา หรือ สื่อการตลาดบน กูเกิ้ล ที่เป็นแพลตฟอร์ม 1 ในของเสิร์ชเอนจิน Google search ads หลังจากผู้ค้นเริ่มทำงานค้นหาต่าง ๆ บน กูเกิ้ล โฆษณาจะโผล่ขึ้นมาขณะการใช้งาน ดังนั้น โฆษณา กูเกิ้ล จะทำการคิดค่าบริการจากจำนวนที่ผู้ใช้บริการคลิกเข้ามาชมโฆษณานั้น ๆ หรือ จากการเข้ามาชมเว็บไซต์ผ่านโฆษณาที่เราจัดการทำให้โฆษณามีการการปล่อยออกไป
มาดู
10 ข้อดีสำหรับการทำโฆษณากูเกิ้ลปี 2021
1.สามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของ Google Ads ได้
โดยเราจะแบ่งวิธีการวิเคราะห์ออกมา 2 แบบคือ
- Conversion Rate หรือ CVR คือ
การวิเคราะห์ผลจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จากการกระทำบางอย่างบนเว็บไซต์ โดยคิดเป็นเปอร์เซ็น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ การกดติดตามข่าวสาร การคลิกหน้าบนโฆษณา
- Click-Through Rate หรือ CTR คือ
อัตราการคลิกโฆษณาของผู้ใช้งาน โดยปกติแล้วจะใช้สำหรับการวัดประสิทธิภาพของ Keyword ที่ใช้ใน Search Campaign ที่แสดงบน Google Display Network ว่าได้ผลดีแค่ไหน ควรปรับปรุงการทำโฆษณาส่วนไหนบ้าง หากค่า CTR ต่ำ หมายความว่า ผู้ประกอบควรแก้ไขการใช้ Keyword หน้าตาโฆษณาให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น หรือ เป็นการกำหนดวัตถุประสงค์กลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ส่วน CTR สูง หมายความว่า โฆษณาของเรานั้นได้รับผลตอบรับที่ดี
2.กูเกิ้ล สามารถปรับเปลี่ยน แพลตฟอร์ม ให้เหมาะสมกับพื้นที่ โฆษณาของเราได้
เราสามารถเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับวัตถุประสงค์ของเราได้ เนื่องจาก Google Ads มีข้อดีที่ว่า ไม่มีแพลตฟอร์มที่ตายตัวทั้งสำหรับมือถือหรือสำหรับคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างแพลตฟอร์มบนมือถือจะมีความกระชับของข้อความให้เหมาะกับพื้นที่หน้าจอมือถือมากกว่า
3. Keywords Are King
Keywords ในการค้นหาเป็นสิ่งสำคัญมากในการทำโฆษณา กูเกิ้ล เพราะยิ่งเรามี Keywords ที่ตรงกับการค้นหาเท่าไร เราจะยิ่งโดนเจอมากเท่านั้น ในปัจจุบันเรามีเครื่องลับต่าง ๆ มากมายที่ช่วยลดเวลาในการหา Keyword ให้มีประสิทธิภาพ แม่นยำ ไม่เสียเงินเปล่า หากยิงแอดแล้วไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า
ตัวอย่างของรูปแบบ Keywords ที่นิยมมาใช้การในการตั้งกลุ่มเป้าหมาย
**Exact Keyword
Keyword ที่มีราคาถูกที่สุด เนื่องจากผู้ใช้ Google Search Engine ต้องใช้คำเดี่ยว ๆ หรือ วลีเฉพาะไม่มีวลีอื่นมาปน
**Broad Keyword
Keyword ที่มีการแสดงผลลัพธ์ออกโดยกว้าง โดยระบบจะแสดงทั้งคำศัพท์โดยตรงและความหมายที่ใกล้เคียง
**A Phrase Match
Keyword ที่มีการใช้เครื่องหมาย “_” ซึ่งผลลัพธ์การค้นหาจะปรากฎเว็บไซต์ที่มี Keyword ดังกล่าวประกอบอยู่ในประโยค หรือวลีนั้นเท่านั้น
4.Ads Google ช่วยให้เราสามารถควบคุมค่าใช้จ่าย
การตั้งค่า BID มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจออนไลน์ เพราะว่าอย่างที่กล่าวไว้ว่า Keyword มีผลต่อการค้นหาและการแสดงของโฆษณาบนเว็บไซต์บนหน้าผลการค้นหา หรือที่เราเรียกว่า Search Engine Result Page (SERP)
ผู้ประกอบการควรวางกลยุทธ์ก่อนลงทุนจ่ายค่า PPC หากแบรนด์ไม่แน่ใจว่าควรลงทุนกับการใช้ Keyword ตัวไหน Google มีเครื่องมือที่ชื่อว่า Keyword Planner ที่สามารถแนะนำผู้ประกอบการได้ว่าในแต่ละเดือนมีคนค้นหา Keyword ต่าง ๆ จำนวนกี่คน ทำให้เราทราบว่าสินค้าที่เราต้องการนำเสนอนี้ ความต้องการในตลาดมากน้อยเพียงใด ทำให้แบรนด์สามารถวางแผนการตลาด โดยการใช้ Keyword ที่สามารถตอบโจทย์ในการทำ Google Ad ได้ดี ซึ่งกูเกิ้ลสามารถช่วยวางแผนค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้
5.Google Ads ช่วยหากลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด
การทำโฆษณาที่สามารถหากลุ่มเป้าหมายได้ตรงกับแบรนด์ คือ การลงทุนที่คุ้มค่า เราสามารถดูได้จากภาพด้านล่างนี้ เป็นตัวอย่างการหากลุ่มเป้าหมายจากตำแหน่งสถานที่ ที่ต้องการให้กลุ่มเป้าหมายเห็นโฆษณาของเรา ถึงแม้ว่าการเจาะกลุ่มเป้าหมายอาจใช้เวลาในการเพิ่ม Conversion เนื่องจากการระบุสถานที่ต่าง ๆ ต้องการนั้นเป็นข้อจำกัดของการนำเสนอโฆษณา แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการสามารถประหยัดงบประมาณจากการทำโฆษณาได้มากเลย
ข้อดีในการเจาะกลุ่มเป้าหมาย คือแบรนด์สามารถทำการ Remarketing ได้ในภายหลัง เพื่อยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย ระบบสามารถวิเคราะห์ได้อีกว่ากลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้ามาในเว็บไซต์มีกี่คน
6.เพิ่มโอกาสในการขาย และขยายตลาดได้ทั่วโลก
Google Ads เป็นบริการ Search Engine อันดับหนึ่งของโลก ที่มีประสิทธิภาพในการใช้งาน สามารถใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน จึงไม่น่าแปลกใจที่เว็บไซต์ต่าง ๆ จะเลือกลงทุนการทำโฆษณากัน ข้อดีของ Google Ads ยังสามารถช่วยให้แบรนด์เพิ่มโอกาสในการขายได้เร็วยิ่งขึ้น คือการเลือก Keyword ที่ไม่ได้จำกัดจำนวน เพื่อให้ค้นหา Keyword เหล่านั้น สามารถค้นหาเว็บไซต์ของเราเจอง่าย รวมถึงแบรนด์สามารถกำหนดภาษาและสถานที่ในการนำเสนอสินค้าได้ ทำให้โอกาสในการขยายตลาดมีความเป็นไปได้สูงว่าจะประสบความสำเร็จ การใช้ปุ่ม Call to Action มีส่วนช่วยในการเพิ่มยอดคลิกและยอดขายได้อีกทาง
7.Google Search Ads. ช่วยให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเจอหน้าเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น
การที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหา Keyword เมื่อไหร่ เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องจะปรากฎขึ้นบนหน้าผลการค้นหา โดย กูเกิ้ล จะมีวิธีการวิเคราะห์เว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อจัดลำดับเว็บไซต์ โดยเว็บโฆษณาเหล่านี้จะต้องจ่ายค่าโฆษณาทุกครั้งที่มีการคลิกเข้ามายังหน้าเว็บไซต์ของเรา สิ่งเหล่านี้เองทำให้หน้า Landing Page มีความสำคัญมาก เนื่องจากเว็บไซต์ของแบรนด์มีส่วนให้ผู้ซื้อสามารถค้นหาเจอได้จากการสร้าง Keyword ที่สำคัญ ทั้งนี้ข้อดีของ Google Ads ยังสามารถวัดประสิทธิภาพการใช้งานได้ จากการรายงานผลผู้ที่เข้าชม และจำนวนที่คลิกเข้ามา ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำสถิติจากการวัดผลมาใช้ เพื่อจัดทำงบประมาณทางการตลาดและงบการโฆษณาได้
8.สามารถกำหนด Title Description ของโฆษณาได้
ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ Title, Description หรือ URL หากเราใส่ Keyword เข้าไป จะช่วยให้โฆษณาของเรามีประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสในการคลิกและได้คะแนน Quality Score มากยิ่งขึ้น
9.สามารถอ่าน Report รายสัปดาห์และรายเดือนได้
เจ้าของเว็บไซต์สามารถอ่าน Report ได้ในทุกสัปดาห์ หรือ ทุกสิ้นเดือน สามารถขอรายงานจากทีมงานได้ เพื่อนำมาวิเคราะห์การตลาดควบคุมค่าใช้จ่ายในธุรกิจ
10.สามารถกำหนดงบประมาณในการลงโฆษณา google ads ได้
หากเราตั้งงบประมาณต่อวันต่ำจนเกินไป แต่ค่าคลิกค่อนข้างสูง โฆษณาของเราอาจแสดงเพียงแค่เวลาสั้น ๆ มีคนคลิกไม่กี่ครั้งงบก็หมด ทำให้เราเสียโอกาสในการขายช่วงเวลาอื่นไป สิ่งที่ควรทำคือ กำหนดงบให้พอดี ตั้งราคา Bid ไม่สูงจนเกินไป เอาให้โฆษณาของเราพอแสดงผลได้ แล้วหาทางเพิ่มประสิทธิภาพให้โฆษณา ทำให้ Quality Score ของเราสูงขึ้น ก็ช่วยให้โฆษณาของเรามีโอกาสแสดงผลบ่อยขึ้นในงบที่จำกัด ซึ่งคุณมีงบโฆษณาที่จำกัดจริง ๆ บทความ การทำโฆษณากูเกิ้ล หรือ Google Ads ด้วยต้นทุนนิดเดียวอาจช่วยได้
หากคุณได้ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับโฆษณากูเกิ้ล Google Ads ก็จะสามารถทำให้แคมเปญของคุณมีประสิทธิผล สามารถเจาะได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย มียอดขายที่เพิ่มขึ้น ยอดคลิกถูกลง ช่วยให้ธุรกิจของคุณเจริญก้าวหน้าเติบโตได้มากยิ่งขึ้น
